Banner background image
Discover Your Dream Job Through ReviewsSuper Resume Helps You Stand OutSearch for jobs now!
banner_model
Please consider sharing!
Share
I love You by JOBTOPGUN
Find jobs

 By Field

 By Industry

 pin

 pin

New jobs at Leading Companies
you-say-hr-sayReviews from interesting companies

Believe it or not? A good resume can make a big difference in creating job opportunities!

Resumes are of utmost importance in the job application process, as they are used to evaluate the qualifications and suitability of applicants for working with organizations or companies. Companies use resumes as a tool to get to know your story, including your relevant experiences. Therefore, your resume significantly impacts the decision to call for interviews or offer job positions. The more outstanding your resume aligns with the company's requirements, the more it enhances your chances of getting noticed and increasing your job application success.

To create a resume that helps you achieve your job-seeking goals, there are essential factors to consider:

  • Define your primary objectives for creating the resume, whether it's for finding a new job, changing careers, or applying to multiple companies at once. Different objectives lead to different focuses within your resume.
  • When writing your resume, some people prefer using English in addition to Thai, as it can showcase language skills effectively. However, applicants should choose a language that suits the company they are applying to, as it demonstrates attention to detail and compatibility with the job description provided in the job posting.
  • Gather and update your personal information before creating your resume, ensuring that it includes your name, address, phone number, and a valid email address for real company contact.
  • Emphasize key points or strengths that align with the job position the company is seeking. Tailor your resume to match the job description in the job posting.

Customize your resume for an outstanding presentation! Include comprehensive information using the Super Resume feature, which helps you highlight your strengths and abilities, making you stand out and catch the attention of leading companies.

EachJob FieldHow is life?

Read the real lives of 26 career paths from 40,000 workers.

Read now! Click.
super-resume-human-hero-banner
'Super Resume'
that helps you stand outMore chance of being interviewed
Create resume for free!
super-resume-human-hero-banner
Broaden Your Work HorizonsNever miss the opportunity to broaden your horizons with our curated news, tips, and articles.
[object Object]
อนุปริญญาคืออะไร ต่อยอดเรียนต่อหรือหางานอย่างไรได้บ้าง ?หลายคนอาจมองว่าวุฒิการศึกษาเบื้องต้นที่จะสามารถหางานได้ ต้องเป็น ปวช. หรือ ปวส. เท่านั้น แต่ยังมีอีกหนึ่งวุฒิการศึกษาที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเข้าสู่ตลาดงาน และหางานได้ไม่ต่างจากวุฒิอื่น ๆ เช่นกัน นั่นคือ “อนุปริญญา” ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกันว่าอนุปริญญาคืออะไร และสามารถต่อยอดในการหางานหรือศึกษาต่ออย่างไรได้บ้างอนุปริญญาคืออะไร จบแล้วเอาไปต่อยอดหรือหางานอะไรได้บ้าง ?อนุปริญญาคืออะไร ?อนุปริญญา คือ หลักสูตรระดับอุดมศึกษาที่ใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 2-3 ปี เป็นวุฒิที่อยู่ระหว่างมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับปริญญาตรี โดยจุดประสงค์ของหลักสูตรอนุปริญญาคือ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็วขึ้น หรือเป็นก้าวแรกในการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ซึ่งมีหลากหลายสาขาวิชา ขึ้นอยู่กับสถาบันการศึกษาแต่ละแห่ง โดยทั่วไปจะครอบคลุมสาขาวิชาต่าง ๆ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ บริหารธุรกิจ และสาขาอื่น ๆ ตามความต้องการของตลาดแรงงานอนุปริญญาเรียนต่อยอดอย่างไรได้บ้าง ?เรียนต่อปริญญาตรีเป็นทางเลือกที่ได้รับนิยมและความสนใจมากที่สุดหลังจากสำเร็จการศึกษาอนุปริญญา คือ การเรียนต่อในระดับปริญญาตรี โดยผู้เรียนสามารถนำหน่วยกิตที่ได้ศึกษามาแล้วไปเทียบโอนกับทางมหาวิทยาลัย เพื่อลดระยะเวลาในการศึกษาต่อปริญญาตรีลงได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การเทียบโอนของแต่ละสถาบันการศึกษาด้วยการเรียนต่อปริญญาตรีหลังจากสำเร็จอนุปริญญา คือทางเลือกที่จะช่วยให้ผู้เรียนมีโอกาสในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งจะเปิดโอกาสในการประกอบอาชีพที่หลากหลายมากกว่าเดิม รวมถึงมีโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพได้ดียิ่งขึ้นด้วยเรียนต่อหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตนอกเหนือจากการเรียนต่อปริญญาตรีแล้ว ผู้สำเร็จการศึกษาอนุปริญญายังสามารถเลือกเรียนต่อในหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต (ป.บัณฑิต) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มีระยะเวลาการศึกษาประมาณ 1-2 ปี โดยมุ่งเน้นการศึกษาในสาขาวิชาเฉพาะทางเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้มีความชำนาญมากยิ่งขึ้นดังนั้น หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพูนทักษะและความรู้ในสาขาวิชาเฉพาะด้านที่ตนสนใจ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษานานเท่ากับการเรียนปริญญาตรี ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถก้าวสู่การประกอบอาชีพได้เร็วขึ้นข้อดีของการเรียนอนุปริญญาคืออะไร ?มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพอนุปริญญา คือหลักสูตรที่มุ่งเน้นการสร้างบัณฑิตที่มีความรู้และทักษะเชี่ยวชาญเฉพาะทางในสาขาอาชีพนั้น ๆ โดยจะมีการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างลึกซึ้ง รวมถึงการฝึกงานหรือสหกิจศึกษาในสถานประกอบการจริง ด้วยเหตุนี้ ผู้สำเร็จการศึกษาอนุปริญญาจึงมีความพร้อมในการนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มโอกาสในการได้งานดีและมีรายได้ที่สูงขึ้นผู้สำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญามีโอกาสได้งานที่ดีและมีรายได้สูงกว่าผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เนื่องจากมีคุณวุฒิและทักษะที่สูงกว่า มีโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพได้มากกว่า อีกทั้งยังใช้ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการศึกษาน้อยกว่าผู้ที่ศึกษาในระดับปริญญาตรีด้วยสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพการศึกษาในระดับอนุปริญญา คือหลักสูตรที่เน้นการบูรณาการความรู้และทฤษฎีสู่การปฏิบัติ ผ่านกระบวนการเรียนรู้จากกรณีศึกษา การทำโครงงาน การฝึกปฏิบัติในห้องปฏิบัติการ และการฝึกงานจริง ดังนั้น เมื่อผู้สำเร็จการศึกษาออกไปประกอบอาชีพ จึงสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้และแก้ไขปัญหาในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอนุปริญญาหางานสายใดได้บ้าง ?ผู้สำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญามีโอกาสในการประกอบอาชีพที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับสาขาวิชาที่ศึกษา ตัวอย่างสายงานที่ได้รับความนิยม เช่นช่างเทคนิคผู้จบอนุปริญญาสาขาวิชาด้านวิศวกรรม เทคโนโลยี หรืออุตสาหกรรม สามารถประกอบอาชีพเป็นช่างเทคนิคในโรงงานอุตสาหกรรม โรงผลิต หรือหน่วยงานด้านการผลิตต่าง ๆ ได้ เช่น ช่างซ่อมบำรุง ช่างเขียนแบบ ช่างควบคุมเครื่องจักร ช่างไฟฟ้า ฯลฯพนักงานธุรการผู้จบอนุปริญญาสาขาวิชาด้านบริหารธุรกิจ การจัดการสำนักงาน หรือเลขานุการ สามารถทำงานเป็นพนักงานธุรการ เจ้าหน้าที่ธุรการ ผู้ช่วยเลขานุการ ได้ทั้งในองค์กรภาครัฐและเอกชนครูอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่สำเร็จการศึกษาอนุปริญญา คือ การเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู เพื่อประกอบอาชีพครูในระดับประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษาได้พนักงานขายผู้จบอนุปริญญาสาขาการตลาด การจัดการ หรือการขายและการบริการ สามารถทำงานเป็นพนักงานขาย นักการตลาด หรือผู้แทนจำหน่ายสินค้าและบริการได้พนักงานบริการผู้สำเร็จอนุปริญญาด้านการโรงแรม การท่องเที่ยว หรือการบริการด้านอาหารและภัตตาคาร สามารถทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ พนักงานประจำห้องพัก หรือพนักงานบริการในโรงแรม ภัตตาคาร สายการบิน ฯลฯนอกจากตัวอย่างข้างต้นแล้ว ผู้สำเร็จการศึกษาอนุปริญญายังสามารถประกอบอาชีพอื่น ๆ ได้อีกมากมาย เช่น เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่งานธนาคาร งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ งานบัญชี ฯลฯ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความถนัดและความสนใจของแต่ละบุคคลจะเห็นได้ว่า ความหลากหลายของสาขาวิชาอนุปริญญา ทำให้ผู้สำเร็จการศึกษามีทางเลือกในการประกอบอาชีพได้อย่างกว้างขวาง โดยสามารถเลือกสายงานที่ตนถนัดและสนใจ พร้อมนำความรู้และทักษะที่ได้รับจากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับคนที่ต้องการสมัครงานวุฒิ ปวช. ปวส. และอนุปริญญา มาใช้บริการเว็บไซต์ของ JOBTOPGUN แพลตฟอร์มหางานที่ครอบคลุมทุกบริษัทชั้นนำในไทย พร้อมอัปเดตตำแหน่งใหม่ สร้างโอกาสได้ทุกวัน นอกจากนี้ยังมี Super Resume ที่ให้คุณทำเรซูเม่ฟรีอย่างมืออาชีพอีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่เบอร์ 02-853-6999 หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android
[object Object]
อยากเปิดบริษัทเองต้องทำอะไรบ้าง ? เผยขั้นตอนจดทะเบียนบริษัทการมีธุรกิจเป็นของตนเอง เป็นความฝันของใครหลายคน แต่จะสามารถก้าวไปสู่จุดนั้นได้ต้องมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบ หนึ่งในขั้นตอนสำคัญคือการจดทะเบียนบริษัทให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและรับประกันถึงความโปร่งใสในการดำเนินงานบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกระบวนการจดทะเบียนบริษัทอย่างละเอียด หรือหากอยากเปิดบริษัทเองต้องทำอะไรบ้าง มาไขข้อสงสัยพร้อมกันในบทความนี้ !9 ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทแบบละเอียด ทำตามได้ Step-by-Stepการจดทะเบียนบริษัทมีกี่ประเภท ?สำหรับคนที่สงสัยว่าถ้าอยากเปิดบริษัท ต้องทำอะไรบ้าง หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การจดทะเบียนธุรกิจ ซึ่งตอนนี้ในประเทศไทยมี 2 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ ทะเบียนพาณิชย์สำหรับบุคคลธรรมดา และทะเบียนนิติบุคคล1. ทะเบียนพาณิชย์ (บุคคลธรรมดา)เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่มีเจ้าของคนเดียว หรือหุ้นส่วนไม่เกิน 3 คน ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ข้อดีคือขั้นตอนง่าย รวดเร็ว ค่าใช้จ่ายไม่สูง เจ้าของสามารถดำเนินธุรกิจในนามตนเอง และไม่ต้องจัดทำบัญชีที่ซับซ้อน แต่ข้อจำกัดคือเจ้าของต้องมีความรับผิดชอบต่อหนี้สินทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ หรือหนี้สินที่เกิดจากการกระทำของเจ้าของธุรกิจเอง จึงทำให้อาจขาดความน่าเชื่อถือ และเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก2. ทะเบียนนิติบุคคลทะเบียนนิติบุคคลมี 3 ประเภทย่อย ดังนี้• ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลเหมาะกับธุรกิจที่มีหุ้นส่วนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป หุ้นส่วนทุกคนมีความรับผิดชอบต่อหนี้สินไม่จำกัด ซึ่งหมายถึงทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อหนี้สินทั้งหมดนั่นเอง ข้อดีคือจัดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ สามารถแบ่งปันผลกำไร/ขาดทุนได้ตามสัดส่วน และมีความยืดหยุ่นในการบริหาร แต่ข้อจำกัดคือหุ้นส่วนทุกคนมีความรับผิดชอบไม่จำกัด อาจเกิดข้อพิพาทระหว่างหุ้นส่วนได้ง่าย และอาจขาดความน่าเชื่อถือ• ห้างหุ้นส่วนจำกัดมีหุ้นส่วน 2-10 คน แบ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ (Active Parter) และหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบ (Limited Partner) โดยหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบจะมีความเสี่ยงเพียงเท่าเงินลงทุน ทำให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือมากกว่าแบบห้างหุ้นส่วนสามัญ แต่ขั้นตอนจดทะเบียนยุ่งยากกว่า• บริษัทจำกัดมีผู้ก่อตั้งตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป จัดตั้งขึ้นโดยวิธีการแบ่งทุนเป็นหุ้น แต่ละหุ้นมีมูลค่าเท่า ๆ กัน เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีกลุ่มผู้ถือหุ้นที่จำกัดจำนวน มีความเป็นส่วนตัวและการกำกับดูแลจากภายนอกน้อยกว่า บริษัทจำกัดถูกกำกับดูแลโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้ถือหุ้นมีความรับผิดจำกัดเพียงเท่าจำนวนหุ้นที่ตนถือ และข้อมูลของบริษัทไม่จำเป็นต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนมากนัก• บริษัทมหาชนจำกัดเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการระดมทุนจากประชาชนทั่วไป ผ่านการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชน ต้องมีผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทตั้งแต่ 15 คนขึ้นไป และจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนอย่างสม่ำเสมอ บริษัทจำกัดมหาชนช่วยสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือแก่องค์กร และผู้ถือหุ้นก็มีความรับผิดจำกัดเช่นเดียวกับบริษัทจำกัด9 ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท ฉบับรวบรัด เข้าใจง่ายสำหรับขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท มีทั้งหมด 9 ขั้นตอน ดังนี้1. ศึกษาข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทขั้นตอนแรกคือการศึกษาข้อมูลการจดทะเบียนบริษัททั้งหมด ดังนี้ศึกษาประเภทของนิติบุคคลที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลห้างหุ้นส่วนจำกัดบริษัทจำกัดบริษัทมหาชนจำกัดศึกษาคุณสมบัติและเงื่อนไขการจดทะเบียนของแต่ละประเภทเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการจดทะเบียนศึกษาค่าธรรมเนียมและระยะเวลาในการดำเนินการ2. ตั้งชื่อบริษัทที่ต้องการใช้ในการจดทะเบียนเมื่อกำหนดประเภทนิติบุคคลได้แล้ว ให้คิดชื่อบริษัทที่ต้องการใช้ โดยตรวจสอบให้ตรงตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ตรวจสอบว่าชื่อบริษัทที่ต้องการใช้ ยังไม่มีผู้จดทะเบียนไว้แล้วชื่อบริษัทต้องเป็นภาษาไทย หรือภาษาไทยผสมภาษาอังกฤษชื่อบริษัทไม่ควรมีข้อความที่สื่อความหมายในทางลามกอนาจาร หรือขัดต่อศีลธรรมอันดีชื่อบริษัทไม่ควรเหมือนหรือคล้ายกับชื่อหน่วยงานราชการ หรือองค์กรระหว่างประเทศสามารถยื่นจองชื่อเพื่อจดทะเบียนบริษัทได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยจะยื่นด้วยตัวเองต่อนายทะเบียน หรือยื่นผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็ได้ โดยเมื่อได้รับการอนุมัติรับรองชื่อบริษัทแล้วต้องยื่นจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิภายใน 30 วัน หากไม่ยื่นในเวลาดังกล่าว ต้องขอจองชื่อใหม่3. จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและยื่นต่อนายทะเบียนการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิต้องยื่นต่อนายทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมชำระค่าธรรมเนียมตามอัตราที่กำหนด แล้วรอรับหนังสือรับรองการจดทะเบียน4. เปิดให้มีการจองซื้อหุ้นของบริษัท และนัดประชุมผู้ถือหุ้นทั้งหมดเมื่อจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิแล้ว ผู้ก่อการจัดให้มีการจองซื้อหุ้นทั้งหมด และออกหนังสือนัดประชุมจัดตั้งบริษัท ในกรณีที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัด ควรเปิดให้มีการจองซื้อหุ้นของบริษัท โดยกำหนดจำนวนหุ้น ราคาหุ้น และระยะเวลาการจองซื้อ หลังจากนั้นนัดประชุมผู้ถือหุ้นทั้งหมดเพื่อแจ้งรายละเอียดที่สำคัญ เช่น วัน เวลา สถานที่ และวาระการประชุม เพื่อจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด5. ประชุมผู้เข้าชื่อซื้อหุ้น เพื่อจัดตั้งบริษัทจัดประชุมผู้เข้าชื่อซื้อหุ้น เพื่อจัดตั้งบริษัท เลือกตั้งคณะกรรมการ กำหนดอำนาจหน้าที่และค่าตอบแทนของกรรมการ รับรองบัญชีรายชื่อฐานะผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นและจำนวนหุ้น และอนุมัติการจัดตั้งบริษัท6. จัดตั้งคณะกรรมการบริษัทจัดตั้งคณะกรรมการบริษัทอย่างเป็นทางการ ที่มีคุณสมบัติตรงตามกฎหมายกำหนด และมีหน้าที่หลักในการบริหารงานของบริษัท จากนั้นคณะกรรมการเรียกเก็บค่าหุ้นจากผู้เข้าชื่อซื้อหุ้น เมื่อครบแล้วกรรมการจัดทำคำขอจดทะเบียนตั้งบริษัท แล้วยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า7. ชำระเงินค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนบริษัทชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนบริษัทให้ครบถ้วนตามอัตราที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนด8. จัดเตรียมและยื่นเอกสารสำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทให้ครบถ้วน และยื่นให้แก่นายทะเบียน เช่นสำเนาบัตรประชาชนของผู้ก่อตั้งทุกคนทะเบียนบ้านของผู้ก่อตั้งทุกคนหนังสือบริคณห์สนธิ (Memorandum of Association)บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเอกสารแสดงการยินยอมเป็นกรรมการเอกสารแสดงการจองซื้อหุ้นหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมโดยการยื่นจดทะเบียนต้องทำภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ประชุมจัดตั้งบริษัท ไม่เช่นนั้นต้องจัดประชุมผู้จองซื้อหุ้นใหม่9. รับใบสำคัญและหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทรอรับใบสำคัญและหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงความสมบูรณ์ในการจัดตั้งบริษัทแล้วอย่างถูกต้องตามกฎหมายหมายเหตุ:ขั้นตอนและเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนบริษัทอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของนิติบุคคลควรศึกษาข้อมูลและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนก่อนไปยื่นจดทะเบียนแนะนำให้ปรึกษานักกฎหมายหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการจดทะเบียนบริษัทแน่นอนว่าเมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นหลังจากการจดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้องแล้ว ก็ย่อมจะมีภาระงานและความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการหาพนักงานเพิ่มเติมจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งนี้ ในการรับสมัครพนักงานใหม่ สามารถลงประกาศสมัครงานผ่านช่องทางออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์ JOBTOPGUN หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่ 02-853-6999 หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android
[object Object]
9 หน้าที่ของผู้จัดการ บริหารคน สร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพปัจจุบันหน้าที่ของผู้จัดการไม่ใช่แค่การมอบหมายให้คนในทีมทำงานตามที่ต้องการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องบริหารจัดการคนให้สามารถทำงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงดูแลทีมให้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และยังต้องคอยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานอีกด้วยหน้าที่ของผู้จัดการกับบทบาทการบริหารคนเพื่อประสิทธิภาพของงานในบทความนี้ จะมาช่วยให้หลายคนเข้าใจหน้าที่ของผู้จัดการมากขึ้น เพื่อจะได้พิจารณาว่าตนเองมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำงานในตำแหน่งผู้จัดการแล้วหรือยัง โดยเราได้รวบรวมบทบาทต่าง ๆ ที่ผู้จัดการต้องทำมาบอกกัน9 หน้าที่ของผู้จัดการ บริหารทีมให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพวางแผน กำหนด และสื่อสารเป้าหมายให้ชัดเจนการกำหนดเป้าหมายและวางแผนในการทำงาน เป็นบทบาทสำคัญของผู้จัดการ เนื่องจากการมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้ทุกคนในทีมมองเห็นจุดหมายปลายทางของการทำงานร่วมกัน และพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายความสำเร็จนั้นให้ได้แต่อย่างไรก็ดี ผู้จัดการจำเป็นต้องสื่อสารเป้าหมายออกไปยังทีมงานอย่างชัดเจน รวมถึงสร้างกรอบแนวทางในการดำเนินงาน เพื่อให้ทีมงานสามารถทำตามได้อย่างถูกต้อง ช่วยลดปัญหาในการทำงานที่ซับซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นคน เวลา และอื่น ๆ ที่มีอยู่ให้คุ้มค่าอีกด้วยมอบหมายงานอย่างเหมาะสมเมื่อกำหนดเป้าหมายในการทำงานได้แล้ว หน้าที่ของผู้จัดการในลำดับต่อมาคือการมอบหมายงานอย่างเหมาะสมกับความสามารถและตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละบุคคล ซึ่งการมอบหมายงานไปยังทีมงาน เป็นการบริหารจัดการงานที่มากมาย ให้สามารถแล้วเสร็จได้ตามเวลาที่กำหนด และมอบผลลัพธ์ของงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสื่อสารกับคนในทีมสม่ำเสมอการสื่อสารกับคนในทีมอย่างสม่ำเสมอ เป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่สำคัญของผู้จัดการ เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างตนเองกับคนในทีม ช่วยให้คนทำงานกล้าเปิดใจบอกเล่าถึงปัญหา หรือขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการทำงานได้อย่างเต็มที่อีกทั้งการสื่อสารกับคนในทีมอย่างตรงไปตรงมา จะช่วยให้ทีมงานเห็นภาพผลลัพธ์ที่ผู้จัดการได้คาดหวังเอาไว้อย่างชัดเจน และเป็นการกระตุ้นให้คนในทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหมั่นให้ฟีดแบ็กเป็นระยะหลังจากที่มีการมอบหมายงานต่าง ๆ แก่ทีมงานไปแล้ว หนึ่งในหน้าที่ของผู้จัดการที่ไม่ควรลืมอย่างเด็ดขาด คือการตรวจสอบผลการทำงาน และหมั่นให้ฟีดแบ็กเป็นระยะ เพื่อช่วยชี้ให้เห็นในจุดที่ทีมงานยังบกพร่อง และกระตุ้นให้เกิดการปรับปรุงตนเอง เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ทีมงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นพัฒนาความสัมพันธ์ของคนในทีมอีกหนึ่งหน้าที่ของผู้จัดการ คือการพัฒนาความสัมพันธ์ของคนในทีม เพื่อให้มีความสนิทสนมกันมากขึ้น จนเกิดความไว้วางใจ สามารถพูดคุยกันได้ทั้งเรื่องงานและเรื่องทั่วไป กลายเป็นบรรยากาศในการทำงานที่ดี ซึ่งทำได้ด้วยการหาเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น การรับประทานอาหาร ปาร์ตี้ แฮงก์เอาต์ รวมไปถึงการจัดเวิร์กช็อป เพื่อสร้างความสามัคคี และเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีมอีกด้วยรับฟังความคิดเห็นของทีมงานการสื่อสารเป็นหน้าที่ที่สำคัญของผู้จัดการก็จริง แต่สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ การเปิดใจและพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทีมงาน ซึ่งจะช่วยให้คนในทีมมีความกล้าที่จะสร้างสรรค์และนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้มองเห็นหนทางการแก้ปัญหา หรือวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมยกย่องชื่นชม ใช้จุดแข็งของทีมงานคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสำหรับคนทำงาน ย่อมต้องการการยอมรับจากผู้จัดการและเพื่อนร่วมงาน ดังนั้นการยกย่องชื่นชมคนที่สามารถทำงานได้ดี หรือมีทักษะที่โดดเด่น นับเป็นการช่วยเสริมสร้างกำลังใจให้แก่ทีมงานได้ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้มีความต้องการใช้ความสามารถของตนมากยิ่งขึ้น หรือนำจุดแข็งของตนเองมาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จได้สร้างแรงจูงใจในการทำงานการสร้างแรงจูงใจให้คนทำงาน ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญของผู้จัดการ โดยต้องสังเกตให้ได้ว่าแต่ละคนนั้น มีแรงจูงใจในการทำงานอย่างไร เช่น คนที่ต้องการความก้าวหน้า ก็ควรยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการโปรโมตเลื่อนขั้น หรือคนที่ชอบความท้าทาย ก็เสนองานใหม่ ๆ ให้ได้ลองทำ โดยต้องนำความสามารถของคนทำงาน โครงสร้างขององค์กร รวมถึงเป้าหมายของงานมาพิจารณาควบคู่กันไปด้วยเป็นต้นแบบที่ดีหน้าที่สำคัญของการเป็นผู้จัดการ คือเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นในแง่มุมของทักษะความสามารถในการทำงาน ความมีระเบียบวินัย ไม่มาทำงานสาย เข้าประชุมตรงเวลา รวมไปถึงการช่วยเหลือ พร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ อย่างมีสติ เพื่อให้คนในทีมเกิดความรู้สึกชื่นชม ยอมรับ และประพฤติปฏิบัติตามในที่สุดใครกำลังสนใจหางานผู้จัดการ (Manager) มาค้นหาตำแหน่งงานที่ใช่ ที่ JOBTOPGUN แอปหางานที่อัปเดตใหม่ทุกวัน ดูแลให้คุณได้งานง่าย ด้วย Super Resume ช่วยคุณสร้าง Resume อย่างมืออาชีพ พร้อมนำเสนอคุณให้โดดเด่นกว่าใคร และยังมีรีวิวบริษัทที่ช่วยให้รู้จักบริษัทตามความจริง ดูแลให้คุณได้งานดี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่เบอร์ 02-853-6999 หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android
[object Object]
5 Technical Skills ที่คนสายไอทีควรมีในยุค AI มีอะไรบ้าง?ถึงตอนนี้ ชัดเจนแล้วว่าการมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของพวกเราไปพอสมควร และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าหากไม่สามารถปรับตัวได้ทัน การโดน AI แย่งงานในอนาคตก็อาจจะไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง โดยเฉพาะสายงานแวดวง IT ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเรื่องนี้ ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาแนะนำ 5 Technical Skills สำหรับคนทำงานสายไอทีนั้นมีอะไรบ้าง เพื่อเปลี่ยนจากโดน AI แย่งงาน เป็นการใช้ AI เสริมความสามารถ ติดปีกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ติดตามได้เลย5 Technical Skills คืออะไร? สกิลไหนที่ต้องมีในยุค AIรวม 5 Technical Skills สำคัญในยุค AI ที่คนทำงานสายไอทีควรมี1. Prompt EngineeringTechnical Skills แรกที่สำคัญมากคือ Prompt Engineering ซึ่งหมายถึงทักษะในการออกแบบพรอมต์ หรือคำสั่งให้กับเครื่องมือ AI อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับความสามารถเฉพาะและข้อจำกัดของระบบ AI แต่ละตัว เพื่อให้พรอมต์สามารถสื่อสารกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ AI ทำงานได้ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุดการที่มีทักษะ Prompt Engineering จะช่วยให้คนทำงานสายไอทีสามารถใช้เครื่องมือ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเต็มศักยภาพของเครื่องมือ AI ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการทำงานแต่ละงานได้รวดเร็ว และแม่นยำยิ่งขึ้นหากอยากมีทักษะ Prompt Engineering ระดับมืออาชีพ สามารถฝึกฝนได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทดลองป้อนคำสั่งหลาย ๆ รูปแบบเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุด ให้เหมาะกับคุณและเครื่องมือที่ใช้มากที่สุด หรือจะลงเรียนคอร์สออนไลน์ เข้าร่วมกลุ่ม หรือฟอรัมที่แชร์วิธีการพรอมต์คำสั่ง AI ก็ได้2. Cloud Computing และ Distributed Systemsทักษะและความเข้าใจเกี่ยวกับ Cloud Computing และ Distributed Systems เป็นทักษะสำคัญในด้านไอทีที่โปรแกรมเมอร์และคนทำงานในสายไอทีควรต้องมี เพราะจะช่วยให้สามารถจัดการทรัพยากรต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลจำนวนมากที่ใช้ในการประมวลผลและการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุดการมีความเข้าใจและมีทักษะในการจัดการ Cloud Computing และ Distributed Systems จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับการกระจายข้อมูลและจัดการข้อมูลที่มีปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ลดความผิดพลาดและล่าช้าของเว็บไซต์ ตลอดจนระบบต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถนำระบบคลาวด์และการกระจายข้อมูลมาใช้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานร่วมกัน การเข้าถึง และส่งต่อข้อมูลได้ แถมยังช่วยให้เกิดความคุ้มค่าด้านงบประมาณ เพราะไม่ต้องใช้เครื่องมือฮาร์ดแวร์ราคาแพง หรือต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมออีกด้วยหากต้องการฝึกฝน Technical Skills นี้ สามารถเรียนรู้ได้จากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่ผู้ให้บริการคลาวด์แต่ละที่นำเสนอไว้ให้เข้าถึงได้ฟรี การลงทะเบียนเรียนคอร์สที่ให้ใบรับรองอย่าง Google Cloud Certified Professional Cloud Architect หรือ AWS Certified Solutions Architect แต่หนึ่งในวิธีที่จะช่วยพัฒนาทักษะนี้ได้ดีที่สุดก็คือ การทดลองใช้ระบบคลาวด์ด้วยตนเองผ่านแพลตฟอร์มคลาวด์ฟรีนั่นเอง3. Cybersecurityอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่จะไม่มีไม่ได้ในยุคแห่งเทคโนโลยีก็คือ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity นั่นเอง ซึ่งความปลอดภัยทางไซเบอร์นั้นหมายถึงการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปฏิบัติ และการใช้งานเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบ เครือข่าย และข้อมูลจากการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย การหยุดชะงัก การแก้ไข หรือการทำลายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ไม่หวังดีนั่นเองการมีทักษะด้าน Cybersecurity จะช่วยให้คุณสามารถปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน รวมถึงเครือข่าย และระบบต่าง ๆ ของคุณจากการโจมตีทางไซเบอร์ได้ ช่วยให้ปลอดภัยจากการถูกเข้าถึง และละเมิดข้อมูลสำคัญ อีกทั้งยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับระบบของคุณ ทำให้ลูกค้ามั่นใจและไว้วางใจในการใช้บริการของคุณด้วยหากต้องการมี Technical Skills ด้าน Cybersecurity อาจฝึกฝนได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามอัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับภัยคุกคามและวิธีเพิ่มความปลอดภัยด้านไซเบอร์อยู่เสมอ การเข้าร่วมหลักสูตรออนไลน์ที่สอนเกี่ยวกับ Cybersecurity ไปจนถึงการเรียนรู้เทคนิคการแฮ็กอย่างมีจริยธรรมผ่านแล็บเสมือนหรือแพลตฟอร์มเฉพาะเพื่อทำความเข้าใจวิธีการทำงานของผู้โจมตี เพื่อหาแนวทางรับมือและแก้ไข4. Machine Learning และ AI Algorithmsความรู้ และ Technical Skills เกี่ยวกับ Machine Learning และ AI Algorithms คือการเข้าใจถึงกระบวนการเรียนรู้ของเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้จากข้อมูล เรียนรู้การระบุรูปแบบ และการคาดการณ์หรือตัดสินใจต่าง ๆ ได้เป็นอัตโนมัติ และเข้าใจการทำงานของอัลกอริทึมของ AI ด้วยประโยชน์ของการมีทักษะนี้คือการช่วยให้คุณสามารถนำ AI มาใช้งานเพื่อการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลเป็นพื้นฐาน ซึ่งจะส่งผลให้มีผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น มีกระบวนการทำงานที่เป็นอัตโนมัติมากขึ้น ลดความซ้ำซ้อนของงานได้ด้วยการเรียนรู้และหาข้อมูลเกี่ยวกับ Machine Learning และ AI Algorithms สามารถทำได้โดยติดตามการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมให้เป็นปัจจุบันเสมอ และหมั่นหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการฝึกฝน AI ใหม่ รวมถึงการฝึกฝนและทดลองเทคนิคต่าง ๆ อยู่เสมอด้วย5. AI EthicsAI Ethics หรือจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์เป็น Technical Skills สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในยุค AI เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เราพัฒนาและใช้ AI ได้อย่างมีความรับผิดชอบ เป็นธรรม เป็นส่วนตัว และปลอดภัย พร้อมทั้งลดการสร้างผลกระทบในทางที่ไม่ดีแก่สังคมให้ได้มากที่สุดการมีทักษะนี้จะช่วยให้สามารถพัฒนา AI ได้อย่างมีความรับผิดชอบ เป็นกลาง และโปร่งใส ลดความเสี่ยงด้านการเกิดอคติและการเลือกปฏิบัติของอัลกอริทึม ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจและการยอมรับให้กับระบบที่สร้างขึ้นได้ด้วยหากต้องการเสริมจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ สามารถทำได้โดยการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ที่ควรมี รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย หรือเข้าร่วมหลักสูตรและเวิร์กช็อปที่องค์กรต่าง ๆ จัดขึ้นก็ได้เมื่อได้ทราบแล้วว่า Technical Skills ที่คนสายไอทีควรมีในยุค AI มีอะไรบ้าง ดังนั้น หากฝึกฝนทักษะเหล่านี้จนชำนาญ โอกาสที่จะได้ตำแหน่งงานดี ๆ ในอุตสาหกรรมนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก โดยใครที่กำลังมองหางานโปรแกรมเมอร์ที่ใช่ แนะนำให้สร้าง Resume ที่มีข้อมูลครบถ้วน นำเสนอจุดแข็งและทักษะของคุณเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ HR ด้วย Super Resume จาก JOBTOPGUN แพลตฟอร์มหางานที่มีงานอัปเดตให้คุณทุกวัน ได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำกว่า 30,000 แห่ง พร้อมมีรีวิวบริษัทที่เปิดรับทำงาน ช่วยให้คุณรู้จักบริษัทดียิ่งขึ้นก่อนสมัครงานโปรแกรมเมอร์ และสายงานอื่น ๆ อีกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-853-6999 หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android
Our Services,For YouOur website connects you with employers. Read and write quality company reviews while presenting the best version of yourself.
JOBTOPGUNJOBTOPGUN
A job-finding website that helps you secure positions from more than 2,000 leading companies.
SUPER RESUMESUPER RESUME
Present yourself in the best light, with over 3 million users.
YOUSAY/HRSAYYOUSAY/HRSAY
Highlight and honor companies that meet the standards expected of any organization, and present companies that would be considered Dream Companies.
Be informed about the right jobswith JOBTOPGUN application
Download on the App StoreGet it on Google Play
Smartphone Application
Find job, Get job
Let us help you find your dream job

Don't miss this opportunity to improve your quality of life through having good work. Login now and find your dream job together.

Finding your dream job is made easy with the user-friendly job website JOBTOPGUN.

Whether you're searching for a job, applying for positions at various companies, a recent graduate with abundant enthusiasm, or someone seeking a permanent job to advance or change your career path, JOBTOPGUN is your rapid gateway to the right job. Our online job listing website and mobile application compile numerous job listings with salary information from leading companies, all updated daily. We facilitate your job search with the Super Resume feature, enabling you to craft a professional resume that makes you stand out. Furthermore, we offer company reviews that provide genuine insights about employers, simplifying your journey to find your dream job on JOBTOPGUN.